home

สิงคโปร์ (ก.ค.-ก.ย. 2561)

พฤศจิกายน 16, 2018
สิงคโปร์ (ก.ค.-ก.ย. 2561)

เริ่มจับตาความเคลื่อนไหวของสิงคโปร์ด้วยสถานการณ์ทางสังคม อัตราการเกิดของประชากรสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้วลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปีในขณะที่อัตราการตายของประชากรสิงคโปร์เพิ่มสูงที่สุดในระยะสองทศวรรษที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์เผยอัตราการเกิดของประเทศสิงคโปร์ในปี 2560 อยู่ที่ 39,615 คน ลดลง 4% จากปีก่อนหน้า ที่มีอัตราการเกิดที่ 41,251 คน นับเป็นอัตราการเกิดที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 ที่มีอัตราการเกิดอยู่ที่ 37,967 คน ขณะที่สถิติอัตราการเกิดที่มากที่สุดของสิงคโปร์นั้นอยู่ที่ 42,663 คน ในปี 2555
ในขณะที่อัตราการเกิดของในสิงคโปร์ลดลง อัตราการเสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาอัตราการเสียชีวิตของชาวสิงคโปร์อยู่ที่ 20,905 คน เพิ่มขี้นจากปีก่อนร้อยละ 4.4
sing1

อัตราการเกิดที่ลดลงของประชากรสิงคโปร์นั้นสาเหตุสำคัญมาจากการที่ชาวสิงคโปร์ครองตัวเป็นโสดมากขึ้น หรือแต่งงานช้า ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สิงคโปร์เผชิญมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ปัญหาทางโครงสร้างเศรษฐกิจ งานที่ไม่มั่นคงและค่าใช้จ่ายที่สูงยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนสิงคโปร์มีบุตรน้อยลง
สืบเนื่องจากอัตราการเกิดที่น้อยลงองค์กรเอกชน Samaritans of Singapore (SOS) ที่ศึกษาเหตุฆ่าตัวตายเพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุในสิงคโปร์ เผยว่าจำนวนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ฆ่าตัวตายในปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ของเหตุการฆ่าตัวตายทั้งหมดของปีที่แล้ว โดยเหตุผลหลักๆ ในการฆ่าตัวตายคือกลัวว่าตนเองจะเป็นภาระของครอบครัว การถูกตัดขาดจากสังคม ปัญหาสุขภาพกาย และปัญหาสภาพจิตใจ
ในส่วนของความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและการลงทุน นักธุรกิจสิงคโปร์กว่า 20 รายเตรียมเดินทางไปเกาหลีเหนือเพื่อหาช่องทางการลงทุน หลังจากที่สิงคโปร์ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกา นายไมเคิล เฮง ที่ปรึกษาทางธุรกิจชาวสิงคโปร์กล่าว่าเขาได้รับคำเชิญให้ไปเยือนเกาหลีเหนือหลังจากที่นายคิมจองอึนประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะเดินหน้าดำเนินการให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์
นายเฮงกล่าวว่าเขาได้หาเรือถึงโอกาสในการลงทุนกับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ 2 เดือนก่อนที่จะมีการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ และเขาได้เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปเกาหลีเหนือพร้อมกับนักธุรกิจสิงคโปร์อีก 18 รายเพื่อพบกับผู้มีอำนาจในเกาหลีและพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจของชาวต่างชาติ นายเฮงมองว่าสิงคโปร์ควรรีบไปลงทุนก่อนนักธุรกิจชาวจีนหรือเกาหลีใต้ ทั้งนี้สิงคโปร์เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับเจ็ดของเกาหลีเหนือก่อนที่สหประชาชาติจะประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพื่อตอบโต้โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ที่ผ่านมาสิงคโปร์ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการค้าและการทำธุรกรรมทางการเงินกับเกาหลีมานานนับสิบปี นอกจากนี้สิงคโปร์ยังได้ยกเลิกใบอนุญาตการทำงานของชาวเกาหลีเหนืออีกด้วย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนายเฮงจึงมองว่าเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักธุรกิจสิงคโปร์ที่ควรเตรียมความพร้อมไว้ การเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในครั้งนี้จะเน้นไปที่การเจรจาในธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจค้าปลีก สิ่งทอ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เขาเสริมว่าหากมีการยกเลิกมาตรการการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือก็อาจจะเปิดช่องให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนมากขึ้นก็เป็นได้
ปิดท้ายด้วยความคืบหน้าคดี 1MDB ศาลสิงคโปร์มีคำสั่งให้โอนเงินจำนวนทั้งสิ้น 15.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 364 ล้านบาท) คืนแก่มาเลเซีย โดยการเปิดเผยของบริษัทกฎหมาย Tan Rajah & Cheah ในสิงคโปร์ ซึ่งดำเนินการแทนกองทุนวันมาเลเซียดีเวลอปเมนต์เบอร์ฮัด (1MDB) และรัฐบาลมาเลเซีย
sing2

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังดำเนินการสืบสวนข้อกล่าวหาว่าเงินประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐได้ถูกถอนออกจากกองทุน (1MDB) ซึ่งเป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นโดยนายนาจิบ ราซัคอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ได้ยึดเงินสดและทรัพย์สินจำนวน 240 ล้านเหรียญสหรัฐจากการตรวจสอบการไหลเข้าของกองทุนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB ที่ผ่านทางสิงคโปร์ไว้ นอกจากนี้นายลิม กวน เอ็ง (Lim Guan Eng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังมาเลเซีย ยังได้แสดงความยินดีต่อคำสั่งของศาลสิงคโปร์พร้อมเผยว่าเงินส่วนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB ที่ต้องถูกส่งคืนเท่านั้น

Leave A Response

คลังข้อมูล

พบกับเราที่ Facebook

Tweets ล่าสุด

No tweets found.

แผนที่อาเซียน