สภาแห่งชาติลาว จำกัดสิทธิ์กระทรวงการเงินในการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ
สภาแห่งชาติลาว จำกัดสิทธิ์กระทรวงการเงินในการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2.15.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแผนการปี 2012-2013 ชึ่งเป็นเป็นจำนวนที่ลดลงจากแผนการปีที่ผ่านมา
หัวหน้าแผนกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกระทรวงการเงินลาว ให้การยืนยันว่าสภาแห่งชาติลาวได้อนุญาตให้กระทรวงการเงินสามารถจัดหางบประมาณด้วยการกู้ยิมและการช่วยเหลือจากต่างประเทศสำหรับนำมาใช้ในโครงการพัฒนาด้านต่างๆที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกระทรวงการเงินในแผนการปี 2012-2013 ได้ในมูลค่าไม่เกิน 370.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่าไรก็ดี สภาแห่งชาติลาวได้จำกัดสิทธิ์ของกระทรวงการเงินให้สามารถกู้ยิมเงินจากต่างประเทศได้ในมูลค่าไม่เกิน 215.13 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออีก 155.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น ก็ต้องป็นการร้องขอการช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งอัตราการขอความช่วยเหลือดังกล่าวก็นับว่าป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่การขอกู้ยืมนั้นกลับลดลงจากแผนการปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากรายงานประจำปี 2012 ของธนาคารแห่งประเทศลาวระบุว่า สภาวะหนี้สินต่างประเทศของรัฐบาลลาวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนับถึงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา รัฐบาลลาวมีหนี้สินต่างประเทศกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นกว่า 35% ของ GDP ในปีดังกล่าว ด้วยเหตุนี้รัฐบาลลาวจึงเหลือโควตาที่จะกูยืมเงินจากต่างประเทศได้ไม่เกิน 10% ของ GDP ในปัจจุบัน(ยอด GDP ปัจจุบันของลาวประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากตามหลักสากลได้มีการกำหนดให้ แต่ละประเทศมีสัดส่วนหนี้สินได้ไม่เกิน 45% ของ GDP นั่นเอง
แหล่งอ้างอิง : lao.voanews.com
แขวงอัดตะปือ ดำเนินมาตรการอนุรักษ์ป่าไม้
ตามนโยบายอนุรักษ์ป่าของรัฐบาลลาวที่ได้กำหนดให้มีอัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ป่าของประเทศเป็น 65% ภายในปี 2015 และเพิ่มเป็น 70% ภายในปี 2020 ตามลำดับนั้น ทางการแขวงอัดตะปือได้ดำเนินมาตรดังกล่าวด้วยการจัดแบ่งสภาพป่าไม้ออกเป็น 3 เขตเพื่อความชัดเจนในการแบ่งหน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ เขตป่าป้องกัน เขตป่าสงวนและเขตป่าผลิตตามลำดับ โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 728,000 เฮกตาร์ ซึ่งคิดเป็น 70% ของเนื้อที่ทั้งหมดของแขวง นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ป่าฟื้นฟูอีกกว่า 25,000 เฮกตาร์ด้วย
ทั้งนี้หากการดำเนินการดังกล่าวของแขวงอัดตะปือเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็จะสามารถทำให้ลาวมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านเฮกตาร์ในปี 2015 และเกิน 17 ล้านเฮกตาร์ในปี 2020
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสภาพป่าไม้ของลาวได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ย 1.4% ต่อปี ทำให้พื้นที่ป่าของลาวเหลืออยู่ประมาณ 9.55 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งคิดเป็น 40% ของพื้นที่ของประเทศ โดยสาเหตุสำคัญของการลดระดับลงอย่างต่อเนื่องก็คือ การลงทุนในภาคการเกษตรจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน เวียดนาม และไทย นอกจากนี้สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การลักลอบตัดไม้เพื่อการค้า ที่พบมากในเขตชายแดนที่ติดต่อกับเวียดนาม จีน และไทย ซึ่งประเมินว่าได้มีการลักลอบตัดไม้และส่งออกไปยังทั้ง 3 ประเทศกว่า 200,000 ตันในแต่ละปี
แหล่งอ้างอิง : lao.voanews.com